เกร็ดเกมน่ารู้ – Massive Darkness: Dungeons of Shadowreach #1:
“ต้นแบบอาชีพจากเกม World of Warcraft” 

ในอัปเดตที่ 15 ของโปรเจค Massive Darkness: Dungeons of Shadowreach ได้มีการเปิดเผยเกี่ยวกับไอเดียการออกแบบ “อาชีพ” ต่าง ๆ ในเกม Massive Darkness 2 และ Dungeons of Shadowreach ออกมาครับ

ผมว่ามันน่าสนใจดี จึงขอหยิบเอาเรื่องนี้มาเขียนให้ได้อ่านกัน พร้อมสรุปและเจาะลึกเกี่ยวกับคลาสใหม่ทั้ง 6 ของ Dungeons of Shadowreach ไปพร้อม ๆ กันไปเลย

จุดเริ่มต้นจาก Massive Darkness ภาคแรก !?

แต่ก่อนจะไปดูว่าแต่ละอาชีพ แต่ละคลาสเขาออกแบบกันอย่างไร เรามาดูเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นของไอเดียนี้กันก่อนครับ… Massive Darkness ภาคแรก มาพร้อมกับระบบอาชีพที่หลากหลาย ซึ่งเราสามารถปรับแต่งให้มันโดดเด่นแตกต่างกันออกไปได้ เพียงแต่ว่าในภาคแรกระบบของมันยังไม่ได้โดดเด่นออกมาแต่อย่างใด

จนกระทั่งใน Massive Darkness 2 ก็ได้ปรับระบบอาชีพในเกมใหม่ ให้กลายเป็นระบบที่ไม่สมมาตรจนถึงขีดสุด แต่ละอาชีพมีการเล่นเป็นของตัวเอง แบบแยกจากกันไปเลย หรือพูดง่าย ๆ คือทุกอาชีพจะมีมินิเกมเป็นของตัวเองนั่นเอง

ข้อเสียคือ มันทำให้เราไม่สามารถเล่นอาชีพซ้ำกันในเกมเดียวได้ แต่ข้อดีที่แลกมานั้นมหาศาล ทำให้ทุกอาชีพมีจุดเด่นมากกว่าเดิม รวมไปถึงยังลดความอัลฟ่าของผู้เล่นลงได้ด้วย

ใด ๆ ก็ตาม ไม่ใช่ว่าเราเล่นอาชีพเดียวกันในเกมไม่ได้ครับ แต่มันเปลี่ยนจากคำว่าอาชีพ ไปเป็น “Roles” หรือ “บทบาท” แทน

Alex Olteanu หัวหน้าฝ่ายออกแบบของเกม Massive Darkness: Dungeons of Shadowreach เล่าว่า การพัฒนาระบบอาชีพใน Massive Darkness 2 นั้น เป็นการต่อยอดระบบ “ดรอปของ” จาก Massive Darkness ภาคแรก

ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความสำคัญของแต่ละอาชีพ ด้วยแรงบันดาลใจต้นแบบจากเกมอย่าง World of Warcraft ที่ Roles หรือบทบาทในปาร์ตี้ นั้นสำคัญต่อการทำภารกิจ หรือสู้กับบอสแบบมาก ๆ อย่างไรก็ตาม Massive Darkness จะไม่ได้ใส่ความเข้มข้นเท่ากับ World of Warcraft ครับ แต่ Roles ก็ยังคงสำคัญต่อการเล่นอยู่ดี

สิ่งนี้ก่อให้เกิดระบบอาชีพที่ไม่สมมาตรขึ้นในเกม Massive Darkness 2

Roles เฉพาะ 6 ลักษณะ

การออกแบบอาชีพใน Dungeons of Shadowreach นั้น จะใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Massive Darkness 2 ครับ คือ Roles เฉพาะ 6 ลักษณะ อันประกอบไปด้วย

  1. อาชีพที่เน้นการโจมตีระยะประชิด
  2. อาชีพที่เชี่ยวชาญด้านอาวุธระยะไกล
  3. อาชีพที่เน้นการใช้เวทมนตร์
  4. อาชีพสายฮีลเลอร์ พลังศักดิ์สิทธิ์
  5. อาชีพสายธรรมชาติ เน้นซัพพอร์ต
  6. อาชีพที่โดดเด่นการใช้พื้นที่มืด สายโร้กไลค์

ซึ่งใน 6 อาชีพนี้ ทำให้ใน Massive Darkness 2 เกิดเป็น Berserker, Ranger, Wizard, Paladin, Shaman, และ Rogue ออกมาตามลำดับ

ส่วนใน Dungeons of Shadowreach ก็ได้มาเป็น Warrior, Hunter, Chronomancer, Cleric, Herbalist, และ Assassin ตามลำดับเช่นกัน

Warrior ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธหลากหลายสไตล์

Warrior จะอยู่ในบทบาทของ “อาชีพที่เน้นการโจมตีระยะประชิด” ถูกออกแบบให้เป็น “นักสู้ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธหลากหลายสไตล์” เป็นสาย Damage และ Tank สามารถปรับสไตล์การเล่นได้ 4 แบบ ยิ่งใช้สไตล์การเล่นไหนมากเท่าไร ก็จะยิ่งเชี่ยวชาญในสไตล์การเล่นนั้น ๆ มากกว่าเดิม ผ่านการปลดล็อกสกิลต่าง ๆ ที่จะมีให้เลือกทั้งแบบในภาพรวม หรือแบบเฉพาะตามสไตล์ที่ต้องการ

อาชีพนี้ถูกออกแบบมาให้เน้นการสลับอาวุธเป็นหลักครับ ซึ่งสามารถสลับอาวุธได้ผ่านสกิลหรือความสามารถโดยตรง ทำให้ไม่จำเป็นต้องจ่าย Action เฉพาะเพื่อสลับอาวุธแต่อย่างใด

ไอเดียการออกแบบของ Warrior คืออาชีพที่สามารถใช้อาวุธได้หลากหลาย ติดอาวุธได้ทุกชนิด และสามารถใช้อาวุธทั้งหมดที่ติดตั้ง โจมตีทั้งหมดได้ในรอบเดียว อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่อยากจะเน้นเล่นแค่สไตล์เดียว หรืออาวุธประเภทเดียว ตัวเกมก็ไม่ได้ปิดกั้นโอกาสนั้นแต่อย่างใดครับ

Hunter อาชีพโจมตีระยะไกลและระยะประชิดที่มาพร้อมกับสัตว์เลี้ยง

Hunter จะอยู่ในบทบาทของ “อาชีพที่เชี่ยวชาญด้านอาวุธระยะไกล” ถูกออกแบบให้เป็น “อาชีพโจมตีระยะไกลและระยะประชิดที่มาพร้อมกับสัตว์เลี้ยง” เป็นสาย Damage, Tank, และ Support เป็นอาชีพที่จะให้เราได้ควบคุมตัวละคร 2 ตัว นั่นคือตัว Hunter เอง และตัวสัตว์เลี้ยงอีก 1 ตัว โดยตอนเริ่มเกมเราจะสามารถเลือกได้ ว่าจะเอาสัตว์เลี้ยงตัวไหนติดเข้าไปผจญภัยร่วมด้วย

สัตว์เลี้ยงแต่ละชนิดจะมีสกิล ค่าสเตตัส และความสามารถในพื้นที่มืด แตกต่างกัน โดยการเล่นจะเป็นการแบ่ง Action จากของตัว Hunter เองโดยตรง

Hunter เป็นอาชีพที่ถูกสร้างขึ้นมา เพราะต้องการให้สัตว์เลี้ยงกลายเป็นกลไกการเล่นเฉพาะตัวของอาชีพนี้ และเกิดเป็นหนึ่งความท้าทายในการเล่น เมื่อเราต้องรักษาสมดุล ในการจ่าย Action ให้ทั้งตัว Hunter และสัตว์เลี้ยงอย่างเหมาะสมที่สุด

Chronomancer จอมเวทย์ผู้ควบคุมเวลา

Chronomancer จะอยู่ในบทบาทของ “อาชีพที่เน้นการใช้เวทมนตร์” ถูกออกแบบให้เป็น “จอมเวทย์ผู้ควบคุมเวลา” เป็นสาย Damage และ Support เป็นอาชีพที่ใช้เวลาเป็นอาวุธ เมื่อเริ่มรอบของตัวเองทุกครั้ง อาชีพนี้จะต้องเล่นมินิเกม 1 นาทีแบบ Real-time เสมอ ซึ่งผลของมินิเกมที่เล่น จะเป็นตัวตัดสินถึงความสามารถหรือสกิลที่จะได้ใช้งานในรอบนั้น ๆ 

ความสามารถของอาชีพนี้ OP ถึงขั้น “ย้อนคืนความตาย” ของเพื่อน ๆ ในทีมได้เลย

จุดเริ่มต้นแรกสุดของ Chronomancer คือ Sorcerer ครับ แต่ทางทีมงานอยากได้อาชีพที่สามารถใช้สกิลได้ตลอดเวลา โดยไม่สนว่าเป็นเทิร์นของตัวเอง อาชีพนี้จึงถือกำเนิดขึ้น

Cleric อาชีพสายรักษาที่ทรงพลัง

Cleric จะอยู่ในบทบาทของ “อาชีพสายฮีลเลอร์ พลังศักดิ์สิทธิ์” ถูกออกแบบให้เป็น “อาชีพสายรักษาที่ทรงพลัง” เป็นสาย Damage, Support, และ Healing เป็นอาชีพที่มาพร้อมกับระบบ Action Row Advancement ยิ่งการ์ดเวทมนตร์อยู่ในแถวนานเท่าไร ก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น และยิ่งแข็งแกร่งขึ้น เมื่อตัวการ์ดถูกเลื่อนไปยังตำแหน่งที่สูงกว่าเดิม แต่ก็ต้องแลกมาด้วยกับคูลดาวน์สกิลที่นานขึ้น

ระบบ Action Row Advancement ถูกออกแบบโดยนิยามว่ามันคือพลังศรัทธาที่ Cleric มีต่อพระเจ้าและตนเอง ยิ่งเขามีศรัทธามากเท่าไร ความสามารถนั้นก็ยิ่งทรงพลัง โดยไอเดียของระบบนี้นั้นมาจากเกมยูโรอย่าง Civilization: New Dawn และ Ark Nova

Herbalist ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและการปรุงยา

Herbalist จะอยู่ในบทบาทของ “อาชีพสายธรรมชาติเน้นซัพพอร์ต” ถูกออกแบบให้เป็น “ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและการปรุงยา” เป็นสาย Support เป็นอาชีพที่จะต้องหาสมุนไพรจากการเก็บไอเทมระหว่างการเล่น เมื่อได้สมุนไพรแล้ว เราสามารถนำมันมาปลูกต่อ จนสามารถนำเอาไปผสมจนกลายเป็นยาเฉพาะ ที่มีความสามารถซึ่งหาไม่ได้จากสายอาชีพอื่นครับ

อาชีพนี้ถูกออกแบบขึ้นจากเกมจำลองการทำฟาร์ม แล้วนำมาผสมเข้ากับระบบการเก็บไอเทมในตัวเกม เป็นอาชีพที่สามารถรวบรวมทรัพยากรพิเศษจากดันเจี้ยนได้ ส่วนการผลิตยามาจากไอเดียการเล่นแร่แปรธาตุ เพื่อทำให้ทรัพยากรพิเศษเหล่านั้นมีประโยชน์ขึ้นมา

Assassin นักรบเงาที่สุดแสนจะอันตราย

Assassin จะอยู่ในบทบาทของ “อาชีพที่โดดเด่นการใช้พื้นที่มืด สายโร้กไลค์” ถูกออกแบบให้เป็น “นักรบเงาที่สุดแสนจะอันตราย” เป็นสาย Damage เป็นอาชีพที่แข็งแกร่งและอันตราย สามารถใช้พื้นที่มืดได้ดีกว่าอาชีพอื่น แต่ในพื้นที่สว่างจะไม่โดดเด่นใด ๆ เลย มาพร้อมลูกเต๋าใหม่ ซึ่งคล้ายกับ Shadow Die ที่จะทอยเมื่อโจมตีจาก Shadow Zone

Assassin ยังมีความสามารถในการสะสม Shadow Icons และใช้ Shadow Abilities ได้ตามที่ต้องการ ในท้ายที่สุดอาชีพนี้จะมีสกิลที่ใช้ใน Shadow Zone จำนวนมาก ผ่านการอัปเลเวลเพิ่มเข้ามา อาชีพนี้เป็นอาชีพที่หยิบเอาระบบ Shadow Zone ที่มีมาตั้งแต่ภาค 1 และ 2 มาต่อยอดให้กลายเป็นอาชีพที่เชี่ยวชาญในเรื่องนี้โดยเฉพาะครับ

แหล่งที่มา gamefound.com

Categories List
Latest Posts